TheMoveClub Physical Therapy Clinic (คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน)
  • Home
  • Services
  • Office Syndrome
  • About US
    • Gallery
  • Promotion
  • Review
    • Review สาขารัชดา-วงศ์สว่าง
    • Review สาขาราชพฤกษ์
  • Contact
  • อาการปวดและท่าบริหาร
    • อาการปวดคอบ่าไหล่ ของชาวออฟฟิศ
    • ปวดหลัง ปวดสะโพก หมอนรองกระดูกทับเส้นป&
    • ปวดฝ่าเท้า รองช้ำ
    • กระดูกสันหลังคด
    • นิ้วล็อค ปวดข้อมือ
    • ปวดเข่า
    • กายภาพบำบัดรักษาปวดหลัง
  • Blog

“ปวดไหล่ ยกแขนได้ไม่สุด หรือว่าเราจะเป็นข้อไหล่ติดกันนะ?”

8/5/2024

0 Comments

 
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เดอะมูฟคลับคลินิกกายภาพบำบัดจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “ภาวะข้อไหล่ติด” โดยจะพูดถึงสาเหตุ อาการ รวมไปถึงท่าบริหารสำหรับคนที่มีปัญหาข้อไหล่ติดมาฝากค่ะ เนื่องจากช่วงนี้มีคนที่เป็นไหล่ติดมาปรึกษาค่อนข้างมาก เลยคิดว่าหากนำข้อมูลมาแชร์เพื่อนๆทุกคน น่าจะมีประโยชน์สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่

          ข้อไหล่ติด (Frozen shoulder) จะมีอาการปวดไหล่ร่วมกับการจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ในทิศทางต่างๆ ซึ่งข้อไหล่ติดมี 2 ประเภท ได้แก่
1.Primary frozen shoulder (ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน)
2.Secondary frozen shoulder (เกิดจากการใช้งานข้อไหล่ซ้ำๆ ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบข้อไหล่)
โดยทั้งสองประเภทนั้นนำมาสู่อาการปวดและภาวะข้อไหล่ติดได้ จะพบมากในผู้หญิง อายุ  40- 60 ปี และหากมีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ และโรคหัวใจ ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อไหล่ติดได้ค่ะ

          ระยะของข้อไหล่ติด แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 Freezing phase เป็นช่วงที่อักเสบเยอะทำให้มีอาการปวดที่รุนแรงโดยเฉพาะช่วงกลางคืนจนรบกวนการนอนและการใช้ชีวิตประจำวัน (2-9 เดือน)
ระยะที่ 2 Frozen phase ระยะนี้จะมีอาการปวดลดลงแต่จะมีอาการติดของไหล่มากขึ้น โดยเฉพาะการหมุนแขนเข้า-ออกและการกางแขน ผู้ป่วยมักบอกว่าไม่สามารถกางแขน สระผมลำบาก ในเพศหญิงจะติดตะขอเสื้อในด้านหลังไม่ได้ (4-12 เดือน)
ระยะที่ 3 Thawing phase เป็นช่วงที่ไม่ค่อยปวดแล้ว แต่จะเหลืออาการข้อไหล่ติด (น้อยลงจากระยะที่ 2) โดยจะติดในบางมุมองศา (5 เดือน - 2ปี)

สำหรับท่าบริหารที่จะฝาก มีทั้งหมด 4 ท่านะคะ

          ท่าที่ 1 จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะบักในการดึงกลับ สามารถใช้ยางยืดเป็นแรงต้านเพิ่มความแข็งแรงได้ จะเริ่มจากจับยางยืดในลักษณะตามรูป จากนั้นค่อยๆ ออกแรงบีบสะบัก 2 ข้างเข้าหากัน ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง 3 เซต
Picture
Picture
    ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนื้อข้อไหล่ด้านหน้า เริ่มจากยืนหันหน้าเข้ากำแพง ใช้มือแนบกับกำแพงดังรูป จากนั้นค่อยๆ หมุนลำตัวไปด้านตรงข้ามกับแขนที่ยก ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง โดยจะมี 2 มุม ก็คือ 90 องศา และ 120 องศาค่ะ
Picture
Picture
          ท่าที่ 3 ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบักแนวด้านข้าง เริ่มจากหันเข้ากำแพง โดยวางสันมือด้านนิ้วก้อยดังรูป จากนั้นค่อยๆ หมุนลำตัวไปด้านตรงข้ามกับแขนที่ยก ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง
Picture
ท่าที่ 4 ท่าเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวโดยใช้ยางยืด  ให้เอามือข้างที่ไหล่ติดไว้ข้างล่าง แล้วออกแรงเหยียดข้อศอก จากนั้น ให้ค่อยๆ ผ่อนแรง ให้ยางดึงมือขึ้นกลับมาสู่ท่าตั้งต้น ดังรูป
Picture
  หากเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามมาใต้กระทู้ได้เลยนะคะ หรือใครที่มีอาการเหล่านี้แล้วอยากเช็คอาการเพิ่มเติม  เพื่อเข้ารับการรักษาอาการข้อไหล่ติด สามารถมาเข้ามาปรึกษาและทำกายภาพบำบัดได้ที่ เดอะมูฟคลับคลินิกกายภาพบำบัดได้เลยค่ะ
..................................................................
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
เดอะมูฟคลับคลินิกกายภาพบำบัด
1.สาขาเจริญนคร : ซ.เจริญนคร 40 เขตคลองสาน กรุงเทพ
2.สาขารัชดา-วงศ์สว่าง : ซ.รัชดาภิเษก78 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพ
3.สาขาราชพฤกษ์ : เลขที่ 1 ซ.ราชพฤกษ์ 6 ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ
มีที่จอดรถทุกสาขาค่ะ
********************************************
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Tel : 092-264-2144 ,097-447-4542
Facebook : Themoveclubratchada
IG : Themoveclub
Line : @ themove-ratchada
Website : www.themoveclubratchada.com
Youtube : TheMoveClubClinic

#ไหล่ติด #ปวดไหล่ #ยกแขนไม่สุด #Frozen shoulder #PhysicalTherapyClinic #TheMoveClub #officesyndrome #คลินิกกายภาพบำบัด #เดอะมูฟคลับ #ออฟฟิศซินโดรม 

0 Comments

ชาวออฟฟิศซิuโดsมเชิญทางนี้ ! ปรับโต๊ะสักหน่อย ยืดกล้ามเนื้อสักนิด ชีวิตดีแน่นอน

8/5/2024

0 Comments

 
ช่วงนี้คนเริ่มเป็น Office Syndrome มากขึ้น อาจด้วยบางส่วนเริ่มมีการ Work From Home และสถานที่ในบ้านไม่เหมาะกับการนั่งทำงาน หรือทำงานในออฟฟิศแล้วไม่ได้ลุกเป็นระยะเวลานาน
ในคลินิกกายภาพบำบัดช่วงนี้ 
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็เป็นเคสที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง จากการนั่งทำงานนาน

ซึ่งออฟฟิศซินโดรม หรือ Upper cross syndrome เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลย์ของกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ มีความเรื้อรัง หายได้ยาก จึงควรดูแลตัวเองและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานค่ะ

วันนี้นักกายฯ เลยขอมาแนะนำการดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อป้องกัน หรือรักษาอาการปวดจากการนั่งนาน ๆ ค่ะ

ก่อนอื่นเรามาสำรวจตัวเองก่อนนะคะว่าเราเป็น Office Syndrome (Upper Cross Syndrome) หรือไม่

“ Office Syndrome Check List ”

- รู้สึกปวดหรือเมื่อยแบบรำคาญ
- มีการอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ หรือทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เช่น นั่งใช้คอมพิวเตอร์นาน ขับรถนาน ใช้โทรศัพท์นาน
- เมื่อขยับตัวหรือบีบนวดแล้วอาการเบาลง แต่จะกลับมาเป็นอีก
- ใช้ความร้อน (แผ่นแปะ ประคบร้อน ฯลฯ) แล้วดีขึ้น แต่สักพักก็ปวดอีก
- อาการไม่หายไปไหน เรื้อรัง กลับมาเป็นอยู่เรื่อย ๆ

หากมีอาการใกล้เคียงกับ Check List ด้านบน แสดงว่าเราอาจเป็นออฟฟิศซินโดรมนะคะ

“ จัดการอาการปวด ”

วิธีการจัดการกับอาการปวดที่เราจะมาดูในวันนี้ มีทั้งหมด 3 ข้อ ซึ่งโฟกัสอาการปวดคอ บ่า ไหล่ นะคะ ใช้ได้ทั้งผู้ที่มีอาการปวด และยังไม่มีอาการค่ะ

1. พักเป็นระยะ

สิ่งที่ง่ายที่สุดในการยับยั้งการทำงานซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อจนได้รับบาดเจ็บ คือการพักการใช้งานเป็นระยะ
เช่น หากต้องนั่งใช้คอมพิวเตอร์ทุกวัน วันละ 6-8 ชั่วโมง ลองตั้งนาฬิกาปลุกทุกชั่วโมงเพื่อลุกขึ้นมาเดิน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานต่อเนื่องยาวนานจนประท้วงด้วยอาการปวดได้ค่ะ

2. ปรับสถานีทำงาน

สถานีทำงาน คือทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา เวลาที่จะต้องใช้งานซ้ำ ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ เป็นต้น

การปรับสถานีทำงาน ช่วยทำให้กล้ามเนื้ออยู่ในความยาวที่เหมาะสม และลดภาระของกล้ามเนื้อได้ค่ะ

เรามาลองปรับดูพร้อมกันนะคะ

- ขอบบนของจอ Monitor ควรอยู่ตรงกับระดับสายตา

หากจอต่ำเกินไป ลองหาหนังสือหรือกล่องมาหนุนจอดูนะคะ หากจอสูงเกินไป ลองปรับเก้าอี้ขึ้นเพื่อให้ตรงระดับค่ะ

- ตำแหน่งคีย์บอร์ด ให้พิมพ์ได้โดยไหล่ไม่ยก

ลองสังเกตตัวเองว่าเวลาพิมพ์ หัวไหล่เรายกอยู่หรือไม่ (ศอกงอประมาณ 90-120 องศา)
จะค่อนข้างเป็นปัญหาในผู้ที่ใช้ Laptop จึงควรหาคีย์บอร์ดแยก (Split Keyboard) มาวางในตำแหน่งที่ต่ำกว่าแลปท็อป เพื่อจะได้ไม่ต้องยกไหล่ค่ะ

- ข้อศอกต้องมีที่วาง

การใช้งานในลักษณะงอศอกตลอด ทำให้ภาระงานของกล้ามเนื้อไหล่และแขนเยอะเกินไป
หากเก้าอี้ไม่มีที่พักแขน อาจหาหมอนมารองศอก (ระวังไม่ให้ไหล่ยก)
หากเก้าอี้มีที่พักแขน ปรับที่พักแขนพอดีกับข้อศอกเพื่อซัพพอร์ตนะคะ

- หลังล่างโดนหนุน

ร่างกายคนเรามีส่วนเว้าบริเวณหลังล่าง ตรงนี้หากเก้าอี้มีส่วนเว้าที่ซัพพอร์ตได้พอดีจะทำให้น้ำหนักตกได้ดีกว่า
เพราะฉะนั้นหากเก้าอี้ไม่มีส่วนเว้า ลองหาผ้าขนหนูหรือหมอนบาง ๆ วางไว้ระหว่างเอวกับเก้าอี้ดู 
นอกจากจะช่วยให้หลังรับน้ำหนักดีแล้ว ยังทำให้เรานั่งตัวตรงขึ้นด้วยค่ะ

- ที่พิงหัว Head Rest

อันนี้ไม่ได้จำเป็นมาก แต่หากเก้าอี้มีที่พิงศีรษะให้ได้พักเป็นระยะ กล้ามเนื้อก็จะรับ Load น้อยลง 
หากเก้าอี้ยังไม่มีที่พิงศีรษะ ลองหาส่วนเสริมไปติดตั้งก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

ลองมาดูตัวอย่างการจัดสถานีทำงานกันค่ะ
Picture
3. หมั่นยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะ

เพื่อลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการใช้งานที่มากเกินไป

เราลองมายืดกล้ามเนื้อเพื่อลดความตึงตัว

และเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมสำหรับการใช้งานกันค่ะ

ทุกท่าต่อไปนี้ ทำค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 5 ครั้งนะคะ สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการค่ะ

ควรรู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บ ชา ปวดเพิ่มขึ้น ควรหยุดทำและปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดนะคะ

ยืดกล้ามเนื้อคอบ่า (Upper Trapezius and Levator Scapulae Muscle)

นั่งบนเก้าอี้ มือฝั่งที่จะยืดหนึ่งจับเก้าอี้ไว้ไม่ให้ไหล่ยก ก้มศีรษะ เอียงหูแนบไหล่ในฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ยืด หันมองเพดาน นำมือที่ไม่ได้จับเก้าอี้อ้อมมาจับศีรษะอีกด้าน ออกแรงดึงเล็กน้อย
กล้ามเนื้ออีกมัด ท่าเดียวกันได้นะคะ เพียงแต่หันมองรักแร้ฝั่งตรงข้ามด้านที่ยืดแทนมองเพดาน พยายามก้มศีรษะไว้นะคะ

Picture
ยืดกล้ามเนื้ออกมัดเล็ก (Pectoralis Minor Muscle)

นั่งบนเก้าอี้ มือประสานกันไว้ด้านหลัง แอ่นอกหนีบสะบักเข้าหากัน กดไหล่ลง เงยหน้าขึ้น

Picture
ยืดกล้ามเนื้ออกมัดใหญ่ (Pectoralis Major Muscle)

ยืนหันหน้าเข้ากำแพง ยกแขนขึ้นขนานลำตัว ศอกงอ 90 องศา
ทาบแขนลงกับกำแพง หันตัวออกช้า ๆ
มัดนี้ทำสองท่านะคะ รักแร้ทำมุม 90 และ 120 องศาค่ะ

Picture
4. เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อสะบัก (Middle and Lower Trapezius Muscle)

การทำงานส่วนใหญ่เป็นการใช้กล้ามเนื้อด้านหน้า
ผู้ที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรมส่วนใหญ่ กล้ามเนื้อสะบักไม่แข็งแรง
และยิ่งกล้ามเนื้อสะบักไม่แข็งแรง จะทำให้ปวดง่ายขึ้นนะคะ

ลองออกกำลังกายกล้ามเนื้อสะบักด้วยท่านี้กันนะคะ

ยืนหันหน้าเข้ากำแพง กางแขนขึ้นประมาณ 140 องศา ลำตัวและแขนแนบกำแพง
ค่อย ๆ ยกแขนออกจากกำแพง โดยลำตัวอยู่ที่เดิม พยายามหนีบสะบักเข้าหากัน ไม่ยกไหล่
ทำซ้ำ 10 ครั้งต่อเซ็ต วันละ 3 เซ็ตค่ะ

Picture
หากปรับเปลี่ยนท่านั่ง ออกกำลังกายเป็นประจำ และไม่นั่งท่าเดิมซ้ำเป็นระยะเวลานาน

กล้ามเนื้อจะทำงานได้เหมาะสม และลดอาการปวดลงค่ะ

หากนำไปใช้แล้วอาการเปลี่ยนแปลงยังไง มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

- The Move Club Physical Therapy Clinic -

#PhysicalTherapyClinic #TheMoveClub #officesyndrome #คลินิกกายภาพบำบัด #เดอะมูฟคลับ #ออฟฟิศซินโดรม 
0 Comments

ปวดหลังร้าวลงขา ใครเห็นก็ว่า “กระดูกทับเส้น” ! ความจริงเป็นอย่างไร มาดูกัน

8/1/2024

0 Comments

 
ปวดหลังร้าวลงขา ใครเห็นก็ว่า “กระดูกทับเส้น” ! ความจริงเป็นอย่างไร มาดูกัน
สวัสดีค่ะ เดอะมูฟคลับกลับมาอีกครั้ง กับหัวข้อ การปวดหลังร้าวลงขา

หลาย ๆ คนมีอาการปวดหลัง/สะโพก ร้าวลงขา อาจมีอาการชาร่วมด้วย

ไปนวดก็แล้ว รับประทานยาคลายกล้ามเนื้อก็แล้ว อาการก็ยังไม่หาย

วันนี้เดอะมูฟคลับ พาทุกคนมาไขข้อสงสัย

ว่าอาการปวดหลังร้าวลงขานี้ เกิดจากอะไรได้บ้าง

ลองมาดูพร้อม ๆ กันนะคะ
 

1. สาเหตุแรก ปวดจาก  “ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ”

HNP - Herniated Nucleus Palposus

เราจะพบอาการหลัก ๆ ดังนี้

- อาการเกิดขึ้นทันที มักเกิดหลังการก้ม หรือบิดหมุน อย่างรวดเร็ว เช่น ยกของหนัก  ไอจามแรง ๆ 
- ผู้ป่วยส่วนมาก จะปวดร้าว หรือชาลงขาด้านใดด้านหนึ่ง 
- หากเป็นรุนแรง อาจมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย เช่น กระดกปลายเท้าไม่ขึ้น 
- ปวดมากขึ้นเมื่อ ไอ จาม หรือเบ่ง 
- ปวดแปล๊บ ร้าวรุนแรง 
- นอนคว่ำ หรือแอ่นหลัง มักจะเบาลง 

หากมีภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

สิ่งแรกที่ควรทำ คือการหลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เจ็บเพิ่มขึ้น

เพราะนั่นหมายถึง หมอนรองกระดูกจะทับเส้นประสาทมากขึ้นค่ะ

เช่น หากก้มตัวแล้วปวดเพิ่มขึ้น ควรพยายามเลี่ยงท่าทางการก้มให้มากที่สุด

โดยหากอาการเป็นไม่มาก เราสามารถทำกายภาพบำบัดร่วมกับการออกกำลังกาย

เพื่อลดการกดของหมอนรองกระดูกต่อเส้นประสาทได้ค่ะ

นักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการลดอาการปวด

เช่น อัลตร้าซาวด์ เลเซอร์ เครื่องดึงหลัง กระตุ้นไฟฟ้า ประคบร้อน/เย็น

การขยับดัดดึงข้อต่อ การจัดท่าเพื่อลดการกดของเส้นประสาท

แต่หากอาการปวดรุนแรง รบกวนชีวิตประจำวันมาก

เช่น เดินไม่ได้ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยทำการผ่าตัดค่ะ





 2. สาเหตุต่อไปปวดจาก “ ความเสื่อมของกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลัง ” Degenerative Disc

เราจะพบอาการหลัก ๆ ดังนี้

- อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
- มักเป็นมากเมื่อมีการลงน้ำหนัก เช่น นั่ง หรือ ยืนนาน ๆ
- อาการค่อย ๆ พัฒนามาเรื่อย ๆ ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด
- ปวดตื้อ ๆ ปวดรำคาญ
- นอนพัก มักจะเบาลง

โดยความเสื่อมนี้ เกิดจากการแคบลงของหมอนรองกระดูก

เป็นกลไกที่เกิดขึ้นตามอายุ

อายุเพิ่มขึ้น น้ำในหมอนรองก็น้อยลง กระดูกจึงเบียดกันมากขึ้น

X-ray อาจเห็นกระดูกงอกออกมา เรียกว่า Spur

หากไม่ได้ผ่าตัด เราไม่สามารถทำให้ความเสื่อมหายไปได้ แต่สามารถบรรเทาอาการปวดได้

โดยการขยับให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวดีขึ้น ร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อรอบ ๆ

ลองมาดูท่าออกกำลังกายสำหรับกระดูกสันหลังเสื่อมกันนะคะ

Picture
ท่าที่ 1
นอนหงายนำขาพาดเข่าด้านตรงข้าม

นำมือมาจับแล้วดึงให้เกิดการหมุนที่หลัง พอให้รู้สึกตึงแล้วคลายออก

10 ครั้งต่อเซต , 3 เซตต่อวัน

(ขณะทำและหลังทำไม่ควรรู้สึกเจ็บ หากเจ็บต้องหยุดทำทันที)

 
Picture
ท่าที่ 2
นั่งทับส้น โน้มตัวลงยืดแขนไปด้านหน้าให้สุด

ค้างไว้ 30 วินาที , 3 ครั้งต่อเซต , 3 เซตต่อวัน

(ขณะทำและหลังทำไม่ควรรู้สึกเจ็บ หากเจ็บต้องหยุดทำทันที)
 

 
3.  สาเหตุสุดท้าย ปวดจาก “ กล้ามเนื้อสะโพกกดทับเส้นประสาท ” Piriformis Syndrome

เราจะพบอาการหลัก ๆ ดังนี้

- ปวดตื้อ ๆ บริเวณสะโพกด้านหลัง
- มักเป็นมากเมื่อนั่งนาน หรือเดินขึ้นลงบันได
- กดบริเวณกล้ามเนื้อ จะมีอาการปวดเพิ่ม
- อาการมักเป็นเพียง 1 ข้าง

โดยกล้ามเนื้อ Piriformis นี้ ทำหน้าที่หมุนสะโพกออกด้านนอก

ดังนั้น ใครที่ชอบนั่งไขว่ห้างนาน ๆ ต้องระวังภาวะนี้นะคะ

สำหรับการรักษาอาการ Piriformis Syndrome จะเน้นไปในทางคลายกล้ามเนื้อ หากมีการหดสั้น

และออกกำลังกายมัดกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรงค่ะ

ลองมาดูท่าออกกำลังกายกันนะคะ 

Picture
​ท่าที่ 1
นอนหงาย ขาข้างที่ต้องการยืดพาดเป็นเลข 4

กอดใต้เข่าด้านตรงข้าม ยกขึ้นหาอก จะรู้สึกตึงกล้ามเนื้อสะโพก

ค้างไว้ 10 วินาที , 5 ครั้งต่อเซต , 3 เซตต่อวัน

(ขณะทำและหลังทำไม่ควรรู้สึกเจ็บ หากเจ็บต้องหยุดทำทันที) 
Picture
สามารถทำในท่านั่งได้เช่นกันค่ะ

โดยนำขาข้างที่ต้องการยืดพาดขึ้นเป็นเลข 4 หลังตรง ก้มตัวไปด้านหน้า

ค้างไว้ 10 วินาที , 5 ครั้งต่อเซต , 3 เซตต่อวัน

(ขณะทำและหลังทำไม่ควรรู้สึกเจ็บ หากเจ็บต้องหยุดทำทันที)
 

 
เห็นไหมคะว่าอาการเดียวกัน ปวดหลังร้าวลงขาเหมือนกัน ก็อาจมีสาเหตุเหมือนกัน

หากอาการเป็นอยู่เรื่อย ๆ พักแล้วไม่หาย บริหารเบื้องต้นแล้วยังมีอาการอยู่

ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมนะคะ

- The Move Club

 #ปวดหลังร้าวลงขา #กระดูกทับเส้น #กายภาพบำบัด #คลินิกกายภาพบำบัด #PiriformisSyndrome #กล้ามเนื้อสะโพกกดทับเส้นประสาท #หมอนรองกระดูกสันหลัง #หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท  ​​
0 Comments

    Author

    Archives

    May 2025
    April 2025
    August 2024
    January 2022
    December 2021
    September 2021
    August 2021
    June 2021
    March 2021
    February 2021
    January 2021
    September 2020
    August 2020
    July 2020
    June 2020
    May 2020
    April 2020
    January 2020
    September 2019
    July 2019
    May 2019
    January 2019
    October 2018
    September 2018
    August 2018
    July 2018

    Categories

    All

    ออฟฟิศซินโดรม
    5ท่าบริหาร ออฟฟิศซินโดรม
    ออฟฟิศซินโดรมเชิญทางนี้ ! ปรับโต๊ะสักหน่อย ยืดกล้ามเนื้อสักนิด ชีวิตดีแน่นอน
    4 ท่ายืด ป้องกันการเกิดออฟฟิศซินโดรม
    ไหล่ติด
    ปวดหลังร้าวลงขา
    หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
    รองช้ำ Plantar fasciitis
    รู้จักกับโรค “รองช้ำ” อาการปวดส้นไม่ได้มีแค่ปวดส้น
    5 ท่าบริหารลดปวดอาการรองช้ำ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis)
    ท่าบริหารสำหรับผู้ที่มีภาวะเอ็นสะบ้าอักเสบ (Patellar Tendinitis)
    ข้อเท้าพลิก

    RSS Feed

Location

Picture

เดอะมูฟคลับ คลินิกกายภาพบำบัด สาขารัชดา-วงศ์สว่าง

ที่ตั้ง ซ.รัชดาภิเษก78 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพ
โทร 09 2264 2144  

FB: THEMOVECLUB-RATCHADA

LINE@: @THEMOVE-RATCHADA


WEBSITE :  WWW.THEMOVECLUBRATCHADA.COM                     
​
IG : THEMOVECLUB

​
YOUTUBE : คลินิกกายภาพบำบัดเดอะมูฟคลับ 
​

​​Tiktok : www.tiktok.com/@themoveclubclinic
Google Map : https://bit.ly/themoveclubRatchada
Picture

Picture
สาขาราชพฤกษ์ (หน้าปากซอยราชพฤกษ์6)
(ห่างจาก BTS MRT สถานีบางหว้า 1.6 km)
ที่ตั้ง: เลขที่ 1  ซ.ราชพฤกษ์ 6  ถ.ราชพฤกษ์  แขวงบางจาก  เขตภาษีเจริญ  กรุงเทพ
​วันเวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00 น. - 18:00 น. (จองคิวล่วงหน้าเท่านั้น)
Tel : ​0974474542 

ติดต่อสอบถามและนัดหมายเวลา Tel : ​0974474542 , 092-264-2144
Website : TheMoveClubRatchada 
Facebook : TheMoveClubRatchada 
Line : @themoveclubrp 
IG : Themoveclub
​
​
​​Tiktok : www.tiktok.com/@themoveclubclinic 

Google Map : https://bit.ly/themoveclubRP​
Picture

Picture
เดอะมูฟคลับ คลินิกกายภาพบำบัด สาขาเจริญนคร
ชั้น 2 อาคาร ดิษฐ์ราเนอสซิ่งโฮม ซอยเจริญนคร 40  ถนนเจริญนคร
แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม.
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00 น. - 18:00 น. (จองคิวล่วงหน้าเท่านั้น)
ติดต่อสอบถามและนัดหมายเวลา โทร 09 8257 9659 


⭐️ Website : www.themoveclubptclinic.com
⭐️ FB : Themoveclubclinic 
⭐️ Line : @themoveclubclinic
⭐️ Youtube : คลินิกกายภาพบำบัดเดอะมูฟคลับ
​
​⭐️ Tiktok : www.tiktok.com/@themoveclubclinic
Google Map : https://bit.ly/themoveclubCharoenNakhon
​
Picture

Copyright ©2014-2025 TheMoveClub Clinic. All material on this website is protected by copyright. All rights reserved.
This website also contains material copyrighted by third parties.
  • Home
  • Services
  • Office Syndrome
  • About US
    • Gallery
  • Promotion
  • Review
    • Review สาขารัชดา-วงศ์สว่าง
    • Review สาขาราชพฤกษ์
  • Contact
  • อาการปวดและท่าบริหาร
    • อาการปวดคอบ่าไหล่ ของชาวออฟฟิศ
    • ปวดหลัง ปวดสะโพก หมอนรองกระดูกทับเส้นป&
    • ปวดฝ่าเท้า รองช้ำ
    • กระดูกสันหลังคด
    • นิ้วล็อค ปวดข้อมือ
    • ปวดเข่า
    • กายภาพบำบัดรักษาปวดหลัง
  • Blog